ต้นไม้ฟอกอากาศยังเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคนที่อยากปรับคุณภาพอากาศในบ้าน ตั้งแต่คอนโด ห้องนอน ออฟฟิศ ไปจนถึงบ้านเดี่ยว ปี 2569 ความต้องการต้นไม้ที่ดูแลง่าย ฟอร์มสวย และช่วยฟอกอากาศได้จริงเพิ่มสูงขึ้นชัดเจน ผู้คนให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่อยู่อาศัยมากขึ้น อยากลดฝุ่น ลดสารเคมีจากเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลายแบบไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเยอะ
บทความนี้รวบรวม 5 ต้นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2569 โดยเลือกจากข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้ การรีวิวในแพลตฟอร์มขายออนไลน์ และความนิยมในการตกแต่งบ้านของกลุ่มวัยทำงาน เพื่อให้เห็นภาพชัดว่าต้นไหนเหมาะกับพื้นที่แบบไหน และแต่ละต้นช่วยฟอกอากาศได้ดีแค่ไหน
1. ยางอินเดียดำ (Rubber Plant)
ยางอินเดียดำยังคงเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มาแรงที่สุด เพราะให้ฟีลแต่งบ้านแบบโมเดิร์น ใบใหญ่ เข้ม มันวาว ทำให้บ้านหรือคอนโดดูหรูขึ้นทันที จุดเด่นคือฟอกสารจำพวก VOC ที่มักออกมาจากเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนที่เพิ่งรีโนเวตห้องหรือย้ายเข้าคอนโดใหม่
จุดเด่น
- ฟอกอากาศได้ดี โดยเฉพาะพื้นที่ปิด
- ทนและดูแลง่าย โตไว
- ฟอร์มตั้งตรง เพิ่มความสวยให้พื้นที่
การดูแล
- ชอบแสงรำไรถึงแสงจัดผ่านม่าน
- รดน้ำ 1–2 ครั้งต่อสัปดาห์
- เช็ดใบช่วยให้รับแสงดีขึ้น
เหมาะกับ: ห้องนั่งเล่น คอนโด ห้องทำงาน
2. ไทรใบสัก (Fiddle Leaf Fig)
ไทรใบสักคือไม้ประดับฟอร์มใหญ่ที่คนแต่งบ้านต้องมี โดยเฉพาะสายมินิมอล สแกนดิเนเวีย จุดเด่นคือใบใหญ่ทรงโดดเด่น ให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้น ฟอกอากาศได้ดี โดยเฉพาะฝุ่นและคาร์บอนไดออกไซด์ เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการต้นไม้ทรงเด่นเป็นพระเอกของมุม
จุดเด่น
- ใบใหญ่ ฟอร์มสวย เติมเต็มพื้นที่ได้ดี
- ฟอกฝุ่นและปรับอากาศให้สดชื่น
- เป็นไม้กระถางที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบ้าน
การดูแล
- ต้องการแสงค่อนข้างมาก
- รดน้ำเมื่อดินแห้ง
- ชอบอากาศถ่ายเท
เหมาะกับ: ห้องรับแขก โถงบ้าน พื้นที่ที่มีแสงดี
3. อโกลนีม่า ซุปเปอร์เร้ด (Aglaonema Super Red)
อโกลนีม่าซุปเปอร์เร้ดเป็นไม้ใบสีที่ติดอันดับยอดฮิต เพราะสวยสะดุดตา ใบแดงสด ตัดกับสีกระถางและเฟอร์นิเจอร์ได้ดี จุดเด่นคือเลี้ยงง่ายและฟอกอากาศได้จริง โดยเฉพาะสารกลุ่มฟอร์มัลดีไฮด์ ทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่ทั้งแต่งบ้านได้และใช้ประโยชน์ด้านคุณภาพอากาศได้พร้อมกัน
จุดเด่น
- สีแดงสด เพิ่มความโดดเด่นให้พื้นที่
- ฟอกสารพิษได้ดี
- เลี้ยงง่าย คนเริ่มเลี้ยงก็เลี้ยงได้
การดูแล
- ชอบแสงรำไร ไม่ต้องมีแดดจัด
- รดน้ำ 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์
- ดินต้องระบายน้ำได้ดี
- เหมาะกับ: ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน มุมแต่งบ้าน
4. โฮย่า (Hoya)
โฮย่าเป็นไม้เลื้อยที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเลี้ยงง่าย ประหยัดเนื้อที่ และให้ฟีลธรรมชาติแบบนุ่ม ๆ จุดเด่นคือใบที่เคลือบแววเล็กน้อย ดูแลง่าย และมีความสามารถในการฟอกอากาศดี โดยเฉพาะพื้นที่เล็กอย่างคอนโดหรือโต๊ะทำงาน
จุดเด่น
- ใช้พื้นที่น้อย เหมาะกับคอนโด
- ฟอกอากาศได้ดี
- มีหลายสายพันธุ์ให้เลือก
การดูแล
- ชอบแสงรำไรสว่าง
- รดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง
- ชอบอากาศถ่ายเท
เหมาะกับ: ชั้นวางของ มุมในบ้าน คอนโดขนาดเล็ก
5. ไม้มงคลฟอกอากาศ (เลือกสายพันธุ์ที่มีผลวิจัยรองรับ เช่น กวักมรกต)
กลุ่มไม้มงคลยังเป็นที่นิยมต่อเนื่อง โดยเฉพาะกวักมรกตที่เป็นทั้งไม้มงคลด้านการเงินและไม้ฟอกอากาศจึงเข้ากับความเชื่อของคนไทย จุดเด่นคือดูแลแทบไม่ต้องดูแล แสงน้อยก็ยังรอด ฟอกสารพิษได้จริง เหมาะกับคนที่อยากได้ต้นไม้ที่ดูแลง่ายที่สุด
จุดเด่น
- เลี้ยงง่ายมาก แทบไม่ตาย
- ฟอกอากาศดี มีงานวิจัยรองรับ
- เป็นไม้มงคลที่คนนิยมจัดวางในบ้าน
การดูแล
- รดน้ำสัปดาห์ละครั้ง
- ไม่ชอบน้ำขัง
- วางในที่แสงปานกลางถึงน้อย
เหมาะกับ: ออฟฟิศ ห้องทำงาน มุมแสงน้อย
สรุป
ทั้ง 5 ต้นนี้เป็นกลุ่มต้นไม้ฟอกอากาศที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค 2569 เพราะเลี้ยงง่าย ฟอร์มสวย และมีคุณสมบัติฟอกอากาศที่เหมาะกับพื้นที่อยู่อาศัยจริง ไม่ว่าจะเป็นคอนโด ห้องทำงาน หรือบ้านเดี่ยว ยางอินเดียดำและไทรใบสักเหมาะกับคนที่ต้องการต้นไม้ทรงใหญ่ช่วยเติมเต็มพื้นที่ ส่วนอโกลนีม่าซุปเปอร์เร้ดและโฮย่าเหมาะกับมุมเล็กที่ต้องการความโดดเด่นหรือความสดชื่นแบบประหยัดพื้นที่ และสำหรับคนที่อยากได้ต้นไม้ที่ดูแลแทบไม่ต้องดูแล ไม้มงคลฟอกอากาศอย่างกวักมรกตคือคำตอบ